เมนู

4. เป็นผู้เคารพยำเกรงในสิกขาอยู่
5. เป็นผู้เคารพยำเกรงในความไม่ประมาทอยู่
6. เป็นผู้เคารพยำเกรงในการปฏิสันถารอยู่.

[314] โสมนัสสูปวิจาร วิจารสัมปยุตด้วยโสมนัส 6


1. เห็นรูปด้วยตาแล้ว ใคร่ครวญรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความโสมนัส.
2. ได้ยินเสียงด้วยหูแล้ว...
3. ได้ดมกลิ่นด้วยจมูกแล้ว...
4. ได้ลิ้มรสด้วยลิ้นแล้ว...
5. ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกายแล้ว...
6. รู้แจ้งธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว ใคร่ครวญธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่ง
ความโสมนัส.

[315] โทมนัสสูปวิจาร วิจารสัมปยุตด้วยโทมนัส 6


1. เห็นรูปด้วยตาแล้ว ใคร่ครวญรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งโทมนัส.
2. ได้ยินเสียงด้วยหูแล้ว...
3. ได้ดมกลิ่นด้วยจมูกแล้ว...
4. ได้ลิ้มรสด้วยลิ้นแล้ว...
5. ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกายแล้ว...
6. รู้แจ้งธรรมด้วยใจแล้ว ย่อมใคร่ครวญธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่ง
โทมนัส.

[316] อุเปกขูปวิจาร วิจารสัมปยุตด้วยอุเบกขา 6


1. เห็นรูปด้วยตาแล้ว ย่อมใคร่ครวญรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งอุเบกขา.

2. ได้ยินเสียงด้วยหูแล้ว ...
3. ได้ดมกลิ่นด้วยจมูกแล้ว...
4. ได้ลิ้มรสด้วยลิ้นแล้ว...
5. ได้ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกายแล้ว. . .
6. รู้แจ้งธรรมด้วยใจแล้ว ย่อมใคร่ครวญธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่ง
อุเบกขา.

[317] สาราณียธรรม ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความให้ระลึกถึง 6


1 ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เข้าไปตั้ง
กายกรรมประกอบด้วยเมตตา ในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งต่อหน้า
และลับหลัง ธรรมนี้ เป็นที่ตั้งแห่งความให้ระลึกถึง เป็นเครื่องกระทำให้
เป็นที่รัก เป็นเครื่องกระทำให้เป็นที่เคารพ ย่อมเป็นไปเพื่อความสงเคราะห์
เพื่อความไม่วิวาท เพื่อความสามัคคี เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
2. ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก คือ ภิกษุในพระ
ธรรมวินัยนี้เข้าไปตั้งวจีกรรมประกอบด้วยเมตตา. . .
3. เข้าไปตั้งมโนกรรมประกอบด้วยเมตตา ในเพื่อนสพรหมจารี
ทั้งหลาย ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ธรรมแม้ข้อนี้ ก็เป็นที่ตั้งแห่งความให้
ระลึกถึง ฯลฯ เป็นไปเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
4. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุได้ลาภอย่างใดอย่าง
หนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยธรรม ได้มาโดยธรรม โดยที่สุดแม้เพียงอาหารใน
บาตร ไม่หวงกันด้วยลาภเห็นปานนั้น แบ่งปันกับเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย
ผู้มีศีล ธรรมแม้นี้ ก็เป็นที่ตั้งแห่งความให้ระลึกถึง ฯลฯ เป็นไปเพื่อความ
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.